"เรียนอะไรดี" คำถามของเด็กจบ ม.6
วิวเรียนสายวิทย์มา จะแพทย์ ทันตะ เภสัช คะแนนก็ไม่ถึง แล้วจะเรียนอะไรดี นั่งเปิดใบคะแนนแอดมิชชั่นคณะต่างๆของปีที่แล้ว (เป็นเด็กแอดมิชชั่นรุ่นที่ 2 ปี 2550) เปิดมาเจอ อุ้ย!!! คณะเภสัชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
ของมหาวิทยาลัยนเรศวร น่าเรียนจัง...
ด้วยความชอบความสวยความงาม การดูแลตัวเอง มีความหลงใหล (Passion) ในด้านนี้ วันที่เลือกคณะเพื่อแอดมิชชั่น จึงเลือกเรียนเครื่องสำอางอันดับ1 แล้ววันประกาศผลก็ลุ้นผลทางโทรศัพท์ที่บ้าน ลุ้นๆ... ในที่สุดก็ติดค๊า!!! ดีใจมากๆ ^ ^
สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง อยู่ในคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือว่าเป็นคณะน้องใหม่ เพราะเราเรียนเป็นรุ่นที่ 3 จำนวนคนในสาขาก็มีประมาณ 30-40 คนต่อรุ่น
การเรียนในมหาลัย 4 ปี ผ่านไปด้วยดี หลักๆจะเรียนรู้เรื่องเครื่องสำอาง การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพ มาตรฐานของโรงงานผลิต GMP, ISO, Halal รวมไปถึงการตลาดเบื้องต้น และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะที่เรียนก็เข้าใจระดับนึง แต่เราอาจจะยังไม่เข้าใจจริง ต้องออกไปทำงานถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เรียนมาต้องนำไปใช้ประโยชน์ยังไงบ้าง
และแล้วก็เรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 แต่ก็ยังไม่ค้นพบตัวเองว่า จริงๆแล้วจบไปอยากจะทำสายงานไหนทางเครื่องสำอางดี? แต่จำได้ว่าเคยบอกเพื่อนว่า จะเก็บตังเปิดร้านเสริมสวยซะเลย ขายเครื่องสำอางไปด้วย เพราะอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่ด้วยทุนน้อย ก็ต้องเริ่มต้นด้วยงานประจำเพราะต้องหาประสบการณ์ พอมาอยู่ในโลกของการทำงาน คำว่าจบเกียรตินิยมเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การพัฒนาตนเอง การปรับตัว การทำงานสำคัญมากกว่า
เริ่มต้นงานแรก...
งานแรกของวิวคือตำแหน่ง นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) อยู่บริษัทผู้ผลิตที่ต่างจังหวัด เน้นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ แนวออร์แกนิค โดยมีผลิตภัณฑ์เป็นแบรนด์ของตัวเองและรับจ้างผลิต เป็น R&D ฝ่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มชำระล้าง เช่น แชมพู ครีมนวด สบู่ก้อน สบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจะมีการควบคุมคุณภาพเรื่องสี กลิ่นยาก เนื่องจากสีธรรมชาติไม่คงทน และต้องระวังเรื่องเชื้อราเป็นอย่างดี ในกระบวนการทางเครื่องสำอาง ก็จะมีการฉายรังสีฆ่าเชื้อก่อน จึงจะนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ในส่วนการทำงาน นอกจากงาน R&D แล้ว จะมีการเข้าไปดูการผลิตในโรงงาน และการทำมาตรฐานโรงงานอย่าง GMP (Good Manufacturing Practice) ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก คนทำงานที่เป็นกันเอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก เพราะเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีคนไม่เยอะมาก จึงได้ทำงานใกล้ชิดผู้บริหาร ทำให้ได้คำสอน หลักการทำงานของท่าน รวมทั้งได้ศึกษาธรรมะไปด้วย
ก้าวสู่การทำงานที่สอง...
งานที่สอง วิวย้ายไปทำงานที่จังหวัดบ้านเกิดตัวเอง พักอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่แล้วไปทำงานบริษัทต่างอำเภอ ในตำแหน่งนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) เครื่องสำอางเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่แรก เนื่องจากเดิมบริษัททำเกี่ยวกับสมุนไพร อาหารเสริม แต่เพิ่งจะเริ่มทำเครื่องสำอางในแบรนด์ของตัวเองและรับจ้างผลิตด้วย เราจึงได้ทำงานที่หลากหลายมากขึ้น และได้ดูการผลิตในโรงงานด้วย ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานเป็นกันเอง อยู่แบบอบอุ่นแบบพี่แบบน้อง
แล้วก็ถึงจุดพลิกผัน!!! เพราะในช่วงภาวะเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ลดลง จึงเกิดความคิดว่าเราต้องหาอาชีพเสริม เริ่มต้นด้วยการขายเสื้อผ้ามือสอง ขายทางออนไลน์ ขายตามตลาดนัด และโพสต์ในอินเตอร์เน็ตว่ารับจ้างผลิตเครื่องสำอาง รวมทั้งทำแบรนด์ตัวเองเล็กๆขึ้น ตอนนั้นทำแชมพู สบู่เหลว สั่งมาเป็นกิโล แล้วนั่งบรรจุใส่ขวดเล็กๆเอง ติดสติกเกอร์เอง จำได้ว่าไม่ได้นอนทั้งคืน (- -') แล้วนำไปเสนอให้กับรีสอร์ต โรงแรม แต่ขายได้ครั้งเดียว ที่เดียวเท่านั้น!!! เพราะเราสู้เรื่องราคาไม่ได้ เพราะโรงแรม รีสอร์ตต้องการราคาต่ำ เป็นเพราะเราไม่ได้ศึกษาตลาดมากพอ ไม่ได้ลุยต่อ ก็เลยหยุดไปก่อน
จากนั้นจึงเริ่มรู้สึกว่า โอกาสยังน้อยไป ลองไปหางานใหม่ โอกาสใหม่ๆที่กรุงเทพฯ ก็แล้วกัน!!!
งานที่สาม...
เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ งานนี้ถือว่าเป็นงานที่ได้ประสบการณ์มากๆ แม้จะทำแค่สั้นๆ เป็นงานด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) โดยไม่ต้องทำแลบแบบที่ผ่านมา การพัฒนามีทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ในคลินิก รวมทั้งได้ศึกษาเครื่องมือในด้านการทำทรีทเมนท์หน้า ทำสปาต่างๆ ซึ่งในด้านการทำงานจะต้องเป๊ะ ช้าไม่ได้ งานต้องไวและชัดเจน ผู้บริหารสอนให้รู้จักการทำงานของจริง ให้ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นงาน Cosmoprof Asia 2014 ที่ผ่านมา เป็นงานแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางระดับเอเชีย ทำให้เราได้รับความรู้อัพเดตใหม่ๆ ได้เห็นผลิตภัณฑ์มากมาย และพูดคุยกับชาวต่างชาติแลกเปลี่ยนความรู้กัน ^ ^



หลังจากนั้น มีงานด้านที่ปรึกษา (Consult) เข้ามาเรื่อยๆ ผลจากที่เราเคยไปโพสต์ Content ไว้ในอินเตอร์เน็ต ทำให้คนติดต่อมาทางอีเมล์ และไลน์ เพื่อให้เราช่วยสร้างแบรนด์ จังหวะนั้นก็ได้ลาออกจากงาน เพื่อลองทำตรงนี้อย่างจริงจัง โชคดีที่ตอนนั้นแต่งงานแล้ว จึงมีแฟนเป็นเพื่อนคู่คิดและสู้ไปด้วยกัน เรามีการนัดพบลูกค้า คุยโปรเจคกัน เราเป็นผู้ประสานงาน ให้แฟนออกแบบโลโก้ ออกแบบฉลาก เราติดต่อให้ทุกอย่างจนแบรนด์พร้อมขายสู่ตลาด เราช่วยกันทำงานในช่วงตอนเย็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ก็นัดพบลูกค้า ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เป็นงานที่สนุกและต้องใช้ทักษะในการแก้ปัญหามากทีเดียว รายได้ก็พอไปได้ ไม่ได้มากมาย ไม่แน่นอน เพราะงานจะไม่ได้มีรายได้ตลอดแบบงานประจำ แต่ก็มีความสุขที่ได้ให้ความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์และได้รู้จักคนมากขึ้น แต่จากนั้นก็มีบริษัทเครื่องสำอางซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ติดต่อมา จึงลองดูกับงานประจำอีกครั้ง
งานที่สี่...
งานครั้งนี้เป็นงานด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องทำแลบเช่นเดียวกัน เป็นงานเกี่ยวกับวัตถุดิบโดยเฉพาะ หาวัตถุดิบทางเครื่องสำอางใหม่ๆตามที่ลูกค้าต้องการ หรือเสนอให้ลูกค้า โดยต้องประสานงานกับหลายฝ่ายเนื่องจากเป็นบริษัทใหญ่ ได้ติดต่อผู้ขายสารสำคัญ สารพื้นฐานต่างๆทางเครื่องสำอางมากมาย ได้พบปะ Supplier จากต่างประเทศ ได้รู้จักเทรนด์ใหม่ๆทางเครื่องสำอาง ได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในที่ทำงาน และบริษัทอื่นๆหลายฝ่าย งานสนุก ในระหว่างการทำงาน ช่วงวันหยุดเราก็นัดเจอลูกค้าในเรื่องของงาน Consult เรื่อยๆ จนวันนึงได้รู้ว่า Connection สำคัญมากจริงๆ ...
แฟนวิวจบปริญญาโทพร้อมรุ่นพี่ที่เก่งมากคนนึง และรุ่นพี่กับแฟนก็สนใจในเรื่องเครื่องสำอางและการทำตลาดออนไลน์พอดี เพราะระหว่างการทำงานด้าน Consult ได้โพสต์ใน Social ว่ารับเป็น Consult อยู่เสมอ จึงได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันกันหลายครั้ง และรุ่นพี่ทั้งสองก็ให้โอกาสเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ และจากนั้นจึงได้ตัดสินใจทำแบรนด์ร่วมกันขึ้น
การเริ่มต้นนั้นค่อยๆเป็นค่อยๆไป เราศึกษาตลาดร่วมกัน คุยในทางธุรกิจกันตลอดว่าจะทำผลิตภัณฑ์ตัวไหนบ้าง โดยใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาของแต่ละคนในทุกๆด้าน คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดในการทำผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ออกมา ผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพ ปลอดภัย และเห็นผลจริง ในช่วงที่พัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่นั้น เป็นช่วงที่ด้านงานประจำก็เยอะมากขึ้น ทำให้สุขภาพไม่ดี วิวจึงตัดสินใจออกมาทำแบรนด์ตัวเองและงาน Consult เต็มตัวเลย ลองทำเพื่อตัวเอง โดยไม่ต้องมีรายได้ประจำดีกว่า เพราะนี่คือโอกาสที่เราจะได้พัฒนาตัวเองให้เป็นเจ้าของกิจการตามที่เคยฝันไว้ และที่สำคัญ!!! เป็นงานที่เรารัก
สร้างแบรนด์อย่างมีเป้าหมาย...
จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทดลองใช้จนแน่ใจว่าปลอดภัย และเห็นผลจริง วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ออกขายสู่ตลาดแล้ว โดยคอนเซ็ปคือ เป็นผลิตภัณฑ์โดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง (Products by Cosmetics Scientist) เพราะต้องการให้ทุกคนได้ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้สารสำคัญที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เห็นผลจริง และเป้าหมายของแบรนด์เราคือ ความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ ผู้ที่ได้ลองใช้มีการซื้อซ้ำ บอกต่อ มีทีมตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากเราอยากให้ทุกคนมีรายได้เสริม เพราะการสร้างรายได้หลายช่องทางเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตงานประจำจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือการส่งออกต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราได้มีการลองส่งสินค้าไปขายที่ประเทศดูไบมาแล้ว ซึ่งให้ผลตอบรับค่อนข้างดี และโอกาสหน้าเราก็จะส่งไปอีกครั้ง และขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้คนได้รู้จักผลิตภัณฑ์คุณภาพดีของเรามากขึ้นค่ะ :)
"Celine By Mariya"
"ซีลีน บาย มาริยา"
ขอบคุณตัวเองที่มี Passion เริ่มต้นในด้านนี้ ขอบคุณที่ได้เจอคนดีๆ ได้เจอโอกาส ขอบคุณครอบครัวและคนรอบข้างที่สนับสนุน เมื่อเรามีเป้าหมายและลงมือทำ ทุ่มเท จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ โดยไม่ยอมแพ้ ต้องสำเร็จแน่นอน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น... เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
View
"Cosmetics Scientist"