วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เครื่องสำอาง & เวชสำอาง


มาทำความเข้าใจกับคำว่า เครื่องสำอาง (Cosmetics) และ เวชสำอาง (Cosmeceuticals) กันค่ะ


อย่างที่เคยเขียนไปในบทความที่แล้วนะคะ ว่าวิวเรียนจบด้าน Cosmetics โดยตรง จำได้เลยว่าเข้าไปในช่วงแรกของการเรียนนั้น มีบทนำเกี่ยวกับความหมายของเครื่องสำอาง และที่สำคัญ อาจารย์สอนว่า การเขียนคำว่า เครื่องสำอาง จะไม่มี ค์ นะคะ (ไม่ใช่เครื่องสำอางค์ แบบนี้เขียนผิดค่ะ) ก็เลยจำตั้งแต่นั้นมาว่า “เครื่องสำอาง” เขียนแบบนี้ ก็เลยอยากจะเขียนตรงนี้ลงบล็อกด้วย เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ทราบ จะได้เขียนและใช้คำได้ถูกต้องค่ะ


มาดูความหมายของ “เครื่องสำอาง” “Cosmetics” ตาม พรบ.เครื่องสำอาง ปี 2535 กันค่ะ



จากความหมายใน พรบ. เราใช้เครื่องสำอาง ***เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม โดยไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิว เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิว ก็จะมีคุณสมบัติเป็น “ยา” แต่ในเทรนปัจจุบันนี้ มีการผสมผสานระหว่างเครื่องสำอางและยาเข้าด้วยกัน จึงเกิดศัพท์ที่เรียกเป็น “เวชสำอาง (Cosmeceuticals)” ขึ้น


***คำว่า “เวชสำอาง” (เวชสำอาง ก็ไม่มี ค์ นะคะ) คำนี้ไม่มีบัญญัติไว้ใน พรบ.เครื่องสำอางนะคะ แต่ใช้กันเยอะมากในปัจจุบันนี้ เพราะเวชสำอาง มีความหมายว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์ โดยให้ผลในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิว เช่นให้ผลทางด้าน Whitening, Antioxidant, Anti-Aging เป็นต้น


ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันนี้ เน้นให้ผลออกฤทธิ์เร็ว จึงเรียกได้ว่าเป็นเวชสำอางทั้งนั้น แต่เราควรดูในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้วยนะคะ 

เนื่องจากผิวของเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ตามธรรมชาติ ซึ่งวงจรปกติ 28 วัน ในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา การใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ออกฤทธิ์นั้น จึงเป็นตัวช่วย เสริมให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น แต่ถ้าเร็วเกินไป ผิวจะไม่สมดุล และในอนาคตผิวจะอ่อนแอ และเป็นอันตรายได้ค่ะ



เพราะฉะนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ และเห็นผลจริงอย่างปลอดภัยนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น