Cream / Lotion / Gel / Serum / Essence
ครีม / โลชั่น / เจล / เซรั่ม / เอสเซ้นส์
ต่างกันยังไงบ้าง??
** วิวจะขอแยกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ **
กลุ่ม 1. Cream / Lotion
กลุ่ม 2. Gel
กลุ่ม 3. Serum / Essence
มาดูกลุ่มแรกกันค่ะ...
กลุ่ม 1. Cream / Lotion
ครีม / โลชั่น
เป็นคำที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้วแน่นอนค่ะ สำหรับทางเครื่องสำอาง
จะเรียกกลุ่มนี้ว่า อิมัลชั่น (Emulsion) ขออธิบายคำจำกัดความของ อิมัลชั่น นิดนึงนะคะ
** Emulsion หมายถึง
ผลิตภัณฑ์รูปแบบหนึ่งที่ประกอบด้วยของเหลวอย่างน้อย 2 ชนิด ซึ่งไม่เข้ากัน
นำมาผสมผสานกัน โดยมีตัวช่วยที่เรียกว่า สารก่ออิมัลชั่น (Emulsifier) เพื่อทำให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
เนื้อที่เข้ากันนี้หากขยายดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็นเป็น 2 ส่วน คือ มีหยดเล็กๆ
กระจายตัวแทรกอยู่ในของเหลวอีกส่วนหนึ่ง
จากรูป
ครีม / โลชั่น มีหลักการ คือ
ผสมส่วนน้ำมัน (Oil) และน้ำ (Water) ซึ่งปกติน้ำมันกับน้ำจะไม่เข้ากัน ทำให้แยกชั้นกันอย่างชัดเจน แต่เมื่อมีสารก่ออิมัลชั่น (Emulsifier) โดยใช้แรงในการคนผสมร่วมกับเทคนิคทางเครื่องสำอาง ก็จะทำให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เป็นเนื้อครีมหรือเนื้อโลชั่นออกมาค่ะ
** โดยสัดส่วนของ Oil และ Water
ต่างกันก็จะให้เนื้อครีมหรือเนื้อโลชั่นที่มีรูปแบบต่างกัน คือ
- ส่วนของน้ำมันปริมาณน้อยกว่าน้ำ จะเรียกว่า
O/W (Oil in Water) Emulsion ซึ่งภายนอกจะเป็นน้ำ ทาแล้วกระจายตัวดี เช่น ครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว ทาแล้วไม่เหนอะหนะ
ทำให้อิมัลชั่นชนิดนี้นิยมในทางเครื่องสำอางค่ะ
- ส่วนของน้ำปริมาณน้อยกว่าน้ำมัน จะเรียกว่า W/O
(Water in Oil) Emulsion ภายนอกจะเป็นน้ำมัน จะมีความชุ่มชื้นมาก
มีความเหนอะหนะ จึงนิยมในกลุ่ม ครีมทากลางคืน (Night Cream) หรือ
ครีมนวดหน้า นวดตัว (Massage Cream) เป็นต้น
** ทั้งครีมและโลชั่น สามารถเป็นได้ทั้ง O/W
และ
W/O นะคะ
แล้วสรุปความแตกต่างของครีมและโลชั่น คืออะไร??
ตอบ ความหนืดค่ะ
- ครีมจะมีความเข้มข้นหรือความหนืดมากกว่าโลชั่น
เนื้อครีมจะหนักกว่า และซึมเข้าผิวยากกว่าโลชั่น เพราะฉะนั้น
เนื้อครีมจะเหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือผิวธรรมดา เพราะต้องการให้ความชุ่มชื้นที่ผิวคงอยู่
เพราะมีการปกคลุมด้วยเนื้อครีมเคลือบอยู่ที่ผิว ป้องกันน้ำในผิวระเหยออกไปค่ะ
- โลชั่นจะมีความเข้มข้นหรือความหนืดน้อยกว่า
เนื้อโลชั่นจะเบากว่า ซึมเข้าผิวง่ายกว่า ทาแล้วสบายตัว ไม่เหนอะหนะที่ผิวค่ะ
จึงนิยมเป็นอิมัลชั่นประเภท O/W นะคะ
กลุ่ม 2. Gel
เจล เป็นสารประเภทโพลิเมอร์ (Polymer) ค่ะ ซึ่งโพลิเมอร์ คือสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นสายโซ่ยาว มีโครงสร้างกักเก็บและอุ้มน้ำไว้ได้เยอะ
โดยในทางเครื่องสำอางก็จะมีการใช้สารก่อเจลชนิดต่างๆให้เหมาะกับประเภทและคุณสมบัติของเครื่องสำอางนั้นๆ
มีทั้งแบบความหนืดมากและความหนืดน้อย
ยกตัวอย่างเช่น Hair Gel จะมีความหนืดมากเพื่อการใช้เซ็ททรงผม
ส่วน Eye Gel ก็จะมีความหนืดลดลงมา สำหรับการทารอบดวงตาแล้วมีความลื่นไปกับผิวรอบดวงตา
ทาแล้วซึมไปที่ผิวได้ดีรวมทั้งทิ้งความชุ่มชื้นไว้ด้วย
กลุ่ม 3. Serum / Essence
- Serum (เซรั่มหรือซีรั่ม)
เซรั่มในทางเครื่องสำอาง
คือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสารสำคัญ (Active
Ingredients) สูงๆ โดยมีเนื้อที่เบาและซึมเร็ว
สังเกตได้จากเวลาทาที่ผิว เนื้อเซรั่มจะซึมเข้าไปที่ผิวไม่เกิน 1-2 นาที ทำให้ผิวได้รับสารสำคัญได้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพ
จึงเห็นผลไวกว่ากลุ่มครีมทั่วไป
- Essence (เอสเซ้นส์)
ความหมายของเอสเซ้นส์ก็คือเซรั่มนั่นเอง
แต่เรียกในทางการตลาดให้ต่างกัน มีความเข้มข้นของสารสำคัญ
(Active
Ingredients) สูงๆ เหมือนเซรั่ม เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำอยู่มาก
ทำให้มีความบางเบา ความหนืดน้อยมากๆ แทบจะเป็นน้ำเลยทีเดียว ทำให้ไหลตัวดี เกลี่ยง่ายที่ผิวค่ะ
สรุปแล้วในทางเครื่องสำอางก็จะมีคำเรียกของประเภทผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไปนะคะ
ขึ้นอยู่กับการใช้งาน คุณสมบัติที่ให้กับผิวค่ะ ส่วนในโครงสร้างเชิงลึกของสารที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามสัดส่วนของส่วนผสม
ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ก็ต้องดูสภาพผิวของเราก่อนนะคะ
ว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์แนวไหน ที่สำคัญต้องทดสอบการแพ้ด้วยค่ะ เพื่อความปลอดภัย
และสวยอย่างยั่งยืนนะคะ
View "Cosmetics Scientist"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น